โดย : nic 08:09 - 1 กรกฎาคม 2554  มาทักทายน้องมิตนะครับ ฝนตกไหมครับที่นั่น..เออ..ว่าแต่..มิตอยู่จังหวัดอะไรนะครับ รู้แต่ว่าอยู่เหนือ..ไม่รู้ว่าจังหวัดอะไรอ่ะครับ..หุ..หุ |
โดย : nic 13:23 - 30 มิถุนายน 2554 จริงๆแล้ว..สติปัฏฐานสี่ก็ไม่มีอะไรมากหรอกครับ แค่กำหนดสติให้อยู่กับตัวตลอดเวลาแค่นั้นเองครับ แต่เวลาปฏิบัติจริงทำยากมากเลยครับ เพราะมันต้องทวนกระแสของใจ เหมือนปลาที่ว่ายทวนน้ำที่เชี่ยวน่ะครับ พี่เองก็พยายามที่จะปฏิบัติอยู่ครับ |
โดย : nic 12:35 - 30 มิถุนายน 2554 ทำไรอยู่น้อ..น้องเรา คิดถึงนะครับ... ว่าไง..เรื่องสติปัฏฐานสี่ ได้ศึกษารึยังครับ..น้องมิต |
โดย : nic 09:28 - 29 มิถุนายน 2554 พี่ไม่ได้ไปไหนหรอกครับ อยู่แต่บ้านทำแต่งานน่ะครับน้องมิต |
โดย : nic 06:54 - 29 มิถุนายน 2554 คิดถึงมิตจิตคำนึงจึงมาหา ได้เยี่ยมมาเป็นแรงใจหายคิดถึง สุขสบายอยู่หรือเปล่า..เฝ้าคำนึง รัก..คิดถึง..คนึงอยู่..รู้เปล่าเอย....นิค..ครับผม |
โดย : nic 22:47 - 28 มิถุนายน 2554 หลับยังครับมิต..คิดถึงนะ! |
โดย : nic 10:35 - 28 มิถุนายน 2554 ข้าวเช้ายังไม่ได้ทานครับ ดื่มน้ำเต้าหู้ไปแก้วเดียวเอง พอดีมีงานช่วงเช้าน่ะครับ เดี๋ยวรอทานกลางวันทีเดียวเลยครับ |
โดย : nic 07:36 - 28 มิถุนายน 2554 คิดถึงน้องมิตครับ.. เมื่อวานพี่งานเยอะ..เหนื่อยมาก ทักทายเพื่อนยังไม่ครบก็หลับเสียแล้วล่ะครับ สบายดัมั๊ยครับน้อง.. |
โดย : ยูริ 23:38 - 27 มิถุนายน 2554 ไหว้สาเน้อคับ ฝนที่ตกทางโน้นหนาวถึงคนทางนี้ น้ำที่ท้วมทางโน้นท้วมถึงคนทางนี้ อิอิ นอนหลับฝันดีในคืนฝนตกเน้อคับ จุ๊บๆๆ |
โดย : nic 23:25 - 26 มิถุนายน 2554 ป่านนี้น้องมิตคงจะหลับแล้วนะครับ...ฝนตกๆอากาศเย็นๆแบบนี้ นอนหลับฝันดีนะครับ.. |
โดย : ยูริ 12:53 - 26 มิถุนายน 2554 ไหว้สาเน้อคับ ด่วน...แม่สอดน้ำท้วมแล้วคับ |
โดย : nic 07:57 - 26 มิถุนายน 2554 มาเยี่ยมยามถามหาเวลาเช้า ให้น้องเจ้ามีความสุขสุดสดใส ทำการงานสมหวังดังตั้งใจ คิดสิ่งใดให้ได้สมอารมณ์ปอง...นิค |
โดย : nic 20:30 - 25 มิถุนายน 2554 ยังไม่ได้ทานเลยครับ..กำลังคุยผ่านข้อความทางเม้นลับกับเพื่อนอยู่ครับ ที่นี่ก็อากาสเย็นทั้งวันนะครับ แต่ฝนไม่ตกครับ |
โดย : nic 19:08 - 25 มิถุนายน 2554 มาทักทายน้องมิตตอนค่ำๆครับ.. ขอให้มีสุขและเจริญในธรรมนะครับ |
โดย : nic 15:19 - 25 มิถุนายน 2554 ครับ..น้องมิต พี่เห็นน้องมิตสนใจที่จะปฏิบัติธรรมพี่ก็ยินดี และขออนุโมทนาด้วยนะครับ คงเป็นบุญที่ได้เคยร่วมทำกันมาถึงทำให้มาพบกัน แม้จะไม่เห็นหน้าก็ตาม การที่น้องอยากปฏิบัติธรรมกรรมฐานนั้น..เป็นบุญเก่าของน้องเองที่ส่งผลมา พี่อยากให้น้องศึกษาจากสื่อที่มีอยู่ก่อนนะครับ พี่อยากแนะนำให้น้องลองศึกษา การเจริญสติปัฏฐาน4ให้มากๆ เพราะสติปัฏฐาน4..เป็นทางตรงที่สุดและปลอดภัยที่สุดในการเจริญ กรรมฐาน พระอริยะเจ้าทั้งหลายก็มาสำเร็จที่สติปัฏฐาน4นี่แหละ การฝึกกรรมฐานนั้นในตำรามี40อย่าง ท่านแบ่งตามจริต(นิสัย)ของแต่ละคนที่ไม่เหมือนกัน รายละเอียดของกรรมฐานทั้ง40อย่างน้องลองค้นคว้าในตำราเอานะครับ หรือในอินเตอร์เน็ตก็น่าจะมี แต่พี่แนะนำให้เจริญสติปัฏฐาน4นะครับ เพราะเป็นสายตรงและครอบคลุมหมดทุกจริต การฝึกกรรมฐานหากฝึกไม่ตรงจริต จะก้าวหน้าช้ามาก อาจทำให้ท้อและเลิกปฏิบัติได้ น้องมิตลองค้นในเน็ตดูนะครับ เรื่องสติปัฏฐานสี่น่ะครับ หากมีข้อสงสัยประการใดก็ถามพี่มาได้นะครับ พี่ยินดีตอบในสิ่งที่พี่รู้ทุกเรื่องครับ.. |
โดย : nic 08:57 - 25 มิถุนายน 2554 อาการอย่างที่น้องบอกไม่ได้เกิดกับผู้ปฏิบัติใหม่โดยทั่วไปนะครับ ในอดีตชาติน้องต้องเคยทำและได้ฌานมาแล้วแน่ๆ พี่แนะนำให้น้องไปเสาะครูบาอาจารย์สายปฏิบัติที่เชี่ยวชาญในการทำกรรมฐานนะครับ พี่ไม่รู้ว่าแถวบ้านน้องจะมีที่ไหนบ้าง น่าเสียดายนะครับ หากคุณวิเศษที่มีอยู่ในตัวน้องไม่ถูกนำออกมาใช้ได้อย่างถูกวิธี แต่พี่ขอแนะนำเบื้องต้นก่อนนะครับ น้องต้องพยามสลัดความกลัวออกจากใจให้ได้ก่อนครับ ความกลัวเป็นอุปสรรคสำคัญในการเจริญจิตภาวนาครับ ให้คิดอย่างนี้ครับว่า ทุกคนเกิดมาต้องตายด้วยกันทุกคน การตายไม่ใช่เรื่องน่ากลัว เป็นแค่การเปลี่ยนที่อยู่ใหม่ของจิตเท่านั้น สูดลมหายใจเข้าลึกๆตั้งใจให้เด็ดเดี่ยวตายเป็นตายขอแลกด้วยชีวิตในการที่จะได้คุณวิเศษมา ย้ำ ต้องเด็ดเดี่ยวนะครับ พนมมือตั้งนะโม3จบ ระลึกถึงคุณของพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ แล้วยึดเอาพระพุทธเจ้าเป็นอาจารย์ใหญ่ การฝึกจิตต้องมีสิ่งยึดเหนี่ยวครับ เมื่อมีที่ยึดเหนี่ยวแล้วใหห้หลับตากำหนดลมหายใจเข้าออกเป็นอารมณ์ เรียกว่า อานาปานะสติ ใหัพิจารณาดูลมที่ผ่านเข้าออกอย่างจดจ่อ อาการทางกายจะเป็นอย่างไรอย่าสนใจปล่อยมันเป็นไป อาการแขนหนักขาหนักเป็นอาการของจิตที่จะละกาย กายทิพย์จะแยกออกจากร่างน่ะครับ ไม่ต้องกลัวนะครับ ไม่ตายหรอก เพียงแต่คุมสติให้มั่นคงไว้ดูอาการที่มันเกิดอย่าส่งใจตามมันออกไป ถ้าเป็นนิมิตลวงเดี๋ยวมันหายไปเอง ให้พิจารณาว่าทุกอย่างไม่มีอะไรคงอยู่ต้องเสื่อมสลายหมดแม้สิ่งที่เห็นตรงหน้าก็ต้องเสื่อมสลายเหมือนกัน เห็นอะไรให้พิจารณาลงสู่ไตรลักษณ์แบบนี้ครับจะช่วยได้เยอะครับ |
โดย : nic 08:07 - 25 มิถุนายน 2554 ใช่ครับ..ไม่ใช่การหลับแค่วูบไปวูบเดียวแล้วรู้สึกตัวขึ้นมานะครับ มันเป็นอาการของจิตลงภวังค์เข้าสู่ฐานจิตก่อนยกตัวขึ้นสู่วิถีของอารมณ์ใหม่คืออารมณ์ของอุปจารฌานน่ะครับ สิ่งที่มิตเห็นเป็นนิมิตของจิต..อาจเป็นจริงหรือไม่จริงก็ได้ ถ้าเห็นครั้งต่อไปตั้งสติให้มั่นนะครับ พิจารณาดูเฉยๆ ดูอาการของมันนะครับจะเกิดปัญญาตัวรู้ขึ้นมาครับ แล้วใครสอนให้มิตทำกรรมฐานครับ และช่วยเล่าอุปสรรคที่ขัดขวางในการทำกรรมฐานให้พี่ฟังหน่อย เผื่อบางทีพี่อาจให้คำแนะนำอะไรได้บ้างครับ |
โดย : nic 07:25 - 25 มิถุนายน 2554 อาการที่มิตเป็นไม่ใช่อาการของโรคประสาทหรอกครับ แต่เป็นภาวะของจิตที่เข้าสู่อารมณ์ของอุปจารฌานน่ะครับ อาการแบบนี้ไม่ได้เกิดกับใครง่ายๆนะครับ เพราะจะต้องผ่านการฝึกจิตมาอย่างดี หรือไม่ก็เป็นอดีตกรรมที่เคยฝึกฝนมาในอดีตชาตินะครับ ก่อนเกิดอาการแบบนี้จะเกิดอาการเหมือนเคลิ้มหลับไปวูบนึงก่อนมั๊ยครับ |
โดย : nic 23:12 - 24 มิถุนายน 2554 อืมม..น่าสนใจมากครับมิต ที่น้องเห็นใจแยกออกเป็นสอง อีกใจหนึ่งมีสติมั่นคงจ้องดูอีกใจหนึ่งแสดงอาการที่เป็นอดีตบ้าง อะไรบ้าง ต่างๆนาๆใช่ไหม? |
โดย : ยูริ 22:39 - 24 มิถุนายน 2554 ไหว้สาเน้อคับ นอนดีหลับดีมีสุขสำราญบานใจด้วยอุ่นไอรักเน้อคับคุณพี่มิตตาที่รัก ขอบคุณจ้าดนัก ฮักจ้าดหลาย |
