หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม แต่งรูป คำคม Glitter สเปซ ไดอารี่ เกมถอดรหัสภาพ เกม วิดีโอ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
วัชรเฉทิกปรัชญาปารมิตาสูตร ตอนที่ 4 - 5
13:32 - 14 สิงหาคม 2562 (แก้ไขล่าสุด 13:58 - 14 สิงหาคม 2562)

 

 

 

ยิ่งกว่าสัจจะใด ๆ


สุภูติ.ถ้าจำนวนแม่น้ำคงคามีมากเท่า จำนวนเม็ดทรายในแม่น้ำคงคา แล้วเม็ดทรายในแม่น้ำคงคาทั้งหมดเหล่านั้นจะมีจำนวนมากมายมหาศาลเพียงใด ? พระเถรสุภิตทูลตอบว่า มากมายมหาศาลจริง ๆ พระเจ้าข้ายิ่งจำนวนแม่น้ำมีมากมายจนนับไม่ได้เช่นนั้น จำนวนเม็ดทรายยิ่งต้องมีมากมายมหาศาลจนสุดคณานับที่เดียว พระเจ้าข้าสุภูติ.เราจะแสดงความจริงต่อเธอ ถ้าบุคคลเติมเต็มดวงดาวทั้งหมดอันนับไม่ถ้วน ในอนันตจักวาล ด้วยสมบัติทั้ง 7 เท่าจำนวนเม็ดทรายในแม่น้ำคงคาทั้งหมดนั้นแล้วบริจาคทรัพย์ทั้งหมดเหล่านั้น เป็นเมตตาทาน เขาจะได้รับบุญกุศลมากมายไหมหนอ ? พระเถร สุภูติ.ทูลตอบว่า มากมายมหาศาลยิ่งนักพระเจ้าข้า พระพุทธองค์ทรงแสดงต่อไปว่า แม้กระนั้น สุภูติ.ถ้าหากเขาศึกษาปฏิบัติตามพระสูตรนี้ให้เกิดความเข้าใจแจ่มชัด แม้เพียงคาถาเดียวและนำไปสอน สาธยายต่อให้บุคคลอื่น ผลบุญที่เขาได้ย่อมมากมายมหาศาลยิ่งกว่ากันมาก


ความเลื่อมใสคำสอนที่แท้จริง


ยิ่งกว่านั้น สุภูติ.เธอควรจะรู้ด้วยว่า ณ.สถานที่ใดที่พระสูตรนี้ได้ถูกแสดงแม้เพียงคาถาเดียว สถานที่นั้นจะได้รับความเคารพเลื่อมใสจากเหล่าเทพ - เทวดา อินทร์ - พรหม - มนุษย์และอมนุษย์ทั้งหลาย ราวกับเป็นพุทธสถานเลยทีเดียว แล้วมันจะมากมายเพียงใดเล่าในกรณีที่บุคคลสามารถแจ้งชัด จดจำ พระสูตรนี้ทั้งหมดได้แล้วน้ไปสอน สาธยายต่อให้แก่ผู้อื่น.สุภูติ.เธอควรรู้ไว้อีกว่า บุคคลเช่นนั้นจะได้บรรลุซึ่งสัจธรรมอันสูงสุดแน่นอนและ สถานที่ใดก็ตาม ที่มีการสักการะบูชาและประดิษฐานพระสูตรนี้ ย่อมเปรียบประดุจมี พระพุทธเจ้าและเหล่าพระอรหันต์สาวกประทับอยู่เลยทีเดียว


ความสงบที่แท้จริงเมื่ออิสรจากความแตกต่าง.


ในขณะที่พระเถระ สุภูติ ได้ฟังคำสอนนี้ก็บังเกิดความซาบซึ้งในความหมายขึ้นมาทันที จนเกิดความปิติ - ปราโมทย์เป็นอย่างยิ่งจึงได้กราบทูลพระพุทะองค์ว่า.มันเป็นสิ่งที่น่า ปลื้มปิติเป็นอย่างยิ่งที่พระองค์ทรงได้แสดงธรรมอันละเอียดลุ่มลึก เช่นนี้ข้าพระองค์มิเคยได้ฟังธรรมเช่นนี้มาก่อนเลยนับตั้งแต่ข้าพระองค์ได้ ดวงตาเห็นธรรม ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ หากบุคคลใดได้สดับรับฟังพระสูตรนี้ด้วยใจที่บริสุทธิ์และสว่างมีปัญญา

อัน หลักแหลมเขาย่อมบังเกิดความแจ้งชัดหลักธรรมนี้ทันทีและความแจ้งชัดในหลักสัจ จธรรมที่แท้จริงนั้นท้จริงแล้วหาใช่ความเป็นหลักสัจธรรมอันแตกต่างออกไปไม่ นั่นเอง ตถาคตจึงได้ทรงกล่าวไว้ว่า หลักสัจธรรมที่แท้จริงนั้นเป็นเพียงแต่ชื่อที่ใช้เรียกขานเท่านั้น ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ การได้ยินคำสอนนี้ข้าพระองค์ฟังแล้วเกิดความเข้าใจและศรัทธาได้อย่างไม่ยาก นักแต่ในภายภาคหน้าอีก 500 ปีล่วงไป หากบุคคลใดมารับฟังพระสูตรนี้แลเวก็เกิดความเข้าใจและศรัทธาอย่างลึกซึ้ง เช่นนี้เขาเหล่านั้นย่อมบรรลุถึงผล

บุญอันยิ่งใหญ่เลยทีเดียวทำไมเล่า เพราะเขาเหล่านั้นอิสรจากความเห็นเรื่องอัตตา ตัวตน บุคล สัตว์และภพภูมต่าง ๆ เพราะเหตุใด ? เพราะการแปลกแยกโดยความเป็นอัตตาตัวตนนั้นล้วนเป็นความเห็นที่ผิด เฉกเช่น การแปลกแยกในเรื่องบุคคล สัตว์หรือภพภูมิต่าง ๆก็ล้วนเป็นความเห็นที่ผิดทั้งสิ้น บุคคลผู้นอกเหนือความเปลกแยกแตกต่างในทุก ๆ ปรากฏการณ์ ทุก ๆ สภาวะย่อมได้ชื่อว่า พระพุทธเจ้า ทั้งหลายพระพุทธองค์ทรงตรัสต่อไปว่าเป็นอย่างที่เธอกล่าว ถ้าบุคคลใดได้ฟังพระสูตรนี้ แล้วเต็มไปด้วยความตื่นตระหนก ตกใจ หวาดกลัว ครั่นคร้ามเลยนั้น จงรู้ไว้เถิดว่า บุคคลผู้นั้นจะบรรลุผลอันยิ่งใหญ่อย่างหาได้ยากยิ่ง เราะเหตุใดเล่า ? เพราะตถาคตสอนว่า ทานบารมี โดยความจริงแล้ว หาใช่ทานบารมีไม่มันเป็นชื่อสมมุติเท่านั้นสุ

ภูติ.ตถาคตได้สอนไว้เช่นเดียวกันว่าขันติบารมี แท้จริงแล้วหาใช่ขันติืบารมีไม่ มันเป็นชื่อสมมุติเท่านั้นทำไมถึงเป็นเช่นนั้นสุภูติ.ในอดีตชาติ เมื่อคราวที่พระราชาแห่งแคว้นกาลิงคะ ได้ทรงหั่นร่างกายของเราออกเป็นท่อน ๆ ตอนนั้นเรามิได้มีความรู้สึกแห่งความเป็นอัตตา ตัวตนของเราแต่อย่างใด เพราะเหตุใดเล่า ? เมื่อแขน - ขาของเราถูกหั่นออกเป็นชิ้น ๆ หากเรายังมีความรู้สึกยึดมั่น - ถือมั่นให้ความแตกต่างในเรื่องอัตตาตัวตนอยู่ เราย่อมบังเกิดความโกรธแค้นอาฆาตเป็นแน่

คอมเม้นต์
กรุณา "เข้าสู่ระบบ" ก่อนคอมเม้นต์
ผู้เขียน
บล็อกโปรด