"เพราะอะไร..??"
01:17 - 17 มีนาคม 2552 (แก้ไขล่าสุด 16:03 - 28 กันยายน 2564)
หลายต่อหลายคำถามที่ค้างคาอยู่ในใจ และคำถามเหล่านั้นมีสาเหตุต่างแตกแยกกันไปคนละทิศ คนละทางจนวุ้นวายไปหมด.. สุดท้ายก็จบลงที่คำตอบเดียว คือ.. “รัก”
“ความรัก”..หนึ่งในหลาย ๆ นิยามของความรักก็ยังมีอีกประการหนึ่งที่คนที่จะมี “รัก”ควรรู้ และยิ่งไปกว่านั้นคือ.. “ควรเข้าใจ”
ความรัก คือ.. “ความแตกต่าง” หน้าแปลกที่ความรักนั้นได้เป็นเสมือนสิ่งวิเศษที่นำเอาของสองสิ่งที่แตกต่างกันมากมากถึงขนาดเป็นคนละขั้ว แต่กลับทำให้ “เข้ากันได้”อย่างพอดี ในความเป็นสิ่ง ๆ หนึ่ง หรือในที่นี้ คือ คน ๆ หนึ่งนั้น มีความเป็นตัวตนของเขาอยู่ในทุก ๆ อณูของความเป็นเขา เราเองก็เช่นกัน แต่เมื่อความรักเป็นสื่อกลาง เมื่อความรักเป็นตัวนำชัก หน้าแปลกที่ความแตกต่างของแต่ละคนนั้นกลับมาสอดประสานกันได้อย่างลงตัว แต่นั้นหมายความว่า “ความรัก”ได้เป็นตัวจัดการทุกสิ่งทุกอย่าง และ คนทั้งสองคนนั้น “รักกัน”
แต่.. เมื่อใดก็ตามที่ใครอีกคนใช้คำว่า “รัก”มาแอบอ้างแทน “ความใคร่” แน่นอน “ความรัก”ย้อมที่จะเข้าไปจัดการอะไรไม่ได้ เพราะในเมื่อใครคนนั้น “ไม่เชื่อมั่น”และ “ไร้ศรัทธา” ใน “รัก”เสียแล้ว รักก็ย่อมไม่มีทางที่จะช่วยอะไรได้ จึงเกิดความแตกต่างจนกลายเป็นช่องว่างที่กว้างขึ้น กว้างขึ้น ตลอดเวลา คนที่รักเขากลับรู้สึกสิ้นพลังในรักเสียแล้ว เพราะเรา “ให้-ความรัก”แก่เขามากไป โดยที่เค้า “ไม่ให้-ความรัก”กลับคือมาเติมพลังที่จะรักกันต่อไป จึงเกิดการ.. “ให้และรับ-อย่างไม่พอดี” แท้ที่จริงแล้ว.. ความรักเป็นการ “ให้และรับ-อย่างพอดี”รักจึงจะยังดำรงอยู่ในคนสองคนนั้นได้ต่อไป เมื่อใครคนหนึ่ง “ไร้รัก”เสียแล้ว ย่อมทำให้เกิดความ “ไม่พอดี”ขึ้นในรัก เราอาจจะเรียกว่า “รักเขาข้างเดียว”
คนหนึ่ง “มอบความรัก”ให้กลับคนอีกคนหนึ่งมากไป จนทำให้ตัวเองกำลังขาดความรักนั้นไป คนหนึ่ง“รับความรัก”มาจากคนอีกคนหนึ่งมากไป จนทำให้ตัวเองมีความรักมากมายจนล้นเกินไป เมื่อเป็นอย่างนี้แล้ว “ความรัก”ที่เคยเป็นสิ่งที่ สวยงาม ทรงคุณค่า และเปี่ยมไปด้วยพลัง กลับกลายเป็นมีดที่แหลมและคม มากรีดหัวใจของทั้งสองคนให้ต้องเจ็บปวดอย่างเหลือเกิน จนมาถึง ณ จุด ๆ หนึ่งที่แม้กระทั้ง “ฝางเส้นเดียว” ก็หนักหนาเกินไปแล้วที่จะทนรับได้ บทสรุปก็คือ การเลิกล้างกันไป
ความรักนั้น โดยเนื้อแท้แล้ว คือ “ความทุกข์” ดังคำที่ตถาคตแสดงเป็นธัมมะคาถา ว่า “ความรักก็คือความทุกข์” แต่ก็หน้าแปลกที่เราทั้งหลายก็ยังไขว่คว้าหามัน เราอาจจะหลีกเลี้ยงการมีรักไม่ได้แต่เราเรียนรู้ที่จะอยู่กับ “ความรัก”อย่างมีความสุขได้ เพียงปรับวิธีคิดเสียใหม่ให้และรับอย่างพอดี
อย่างเอาความพอใจของตัวเองเป็นที่ตั้ง อารมณ์และเหตุผลต้องแยกออกจากกันและจงให้เหตุผลเป็นใหญ่เหนืออารมณ์ “มอบความรัก”ให้ใครอีกคนเมื่อรู้สึกว่าตัวเองมีความรักมากพอที่จะแบ่งให้คนอื่นได้บ้างแล้ว และ “รับความรัก”มาจาใครอีกคนเมื่อรู้สึกว่าตัวเองยังมีที่ว่างในหัวใจมากพอที่จะเก็บความรักที่ได้รับนั้นไว้ได้ สุดท้ายจงอย่าลืมแบ่งปันความรักให้แก่กันและกัน เพราะนั้นจะทำให้ความรักดำรงอยู่ได้ในคนทั้งสองคน “ความเข้าใจ อาจช่วยอะไรไม่ได้หากเข้าใจแต่ไม่ได้รักกัน” คอมเม้นต์
กรุณา "เข้าสู่ระบบ" ก่อนคอมเม้นต์
|
บล็อกโปรด
|