สเปซของ เจ้าหนูบู้บี้

28 พย นัดตรวจคุณแม่
18 ธค นัดฉีดวัคซีนคุณลูก

ที่ อนามัยหัวกุญแจ

ฝากบอกให้กินนมแม่เยอะๆ

แล้วคนสวยกินข้าวเที่ยงกี่โมงจ๊ะวันนี้

พักผ่อนเยอะๆ คนสวย จุ๊ฟๆ

ซื้อโทรศัพ บ.มาเครื่องนึ่ง 800 สภาพดี ได้ของวันที่ 31นี้

ทรงนี้อ่ะจ๊ะ

**ยืมรูปมาจากgoogle

ชัยกับแฟน ให้ บอดี้สูตร+หมวก มา1ชุดจ๊ะ ^^

ที่รักพักผ่อนเยอะๆน่ะ นอนข้างๆลูกแหละน่ะ

จุ๊ฟๆ

ตื่นหรือยัง

กินข้าวหรือยัง

อาบน้ำให้หนูคนสวยละยัง

จุ๊ฟๆ

(โทรไปไม่มีคนรับสายเลย)

สวัสดีจ้า

ลูกสาวเป็นไงมั้งจ๊ะ วันนี้เห็นจามมั้งป่าว

แล้วมี่กินอะไรมั้งจ๊ะวันนี้

จุ๊ฟๆ

http://pantip.com/topic/31164247

สะดือ

เป็นส่วนที่ต้องระมัดระวัง ไม่ให้มีการติดต่อรับเชื้อโรคได้ ดังนั้น คุณแม่ควรทำความสะอาดวันละ 2 ครั้ง ช่วงเช้าและเย็นใช้คอตตอนบัดเช็ดสะดือลูก โดยเฉพาะบริเวณรอยต่อระหว่างสายสะดือกับบริเวณผิวหนังทารก ด้วยแอลกอฮอล์ 70% ตามที่โรงพยาบาลจัดให้

เรื่องต้องระวัง : ห้ามใช้แป้งเด็กโรยสะดือ เพราะภายนอกดูเหมือนสะดือแห้งดี แต่ส่วนรอยต่อระหว่างสะดือกับผิวหนังหน้าท้องอาจจะยังแฉะ กลายเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรค เกิดการติดเชื้อได้ โดยทั่วไปสะดือเด็กแรกเกิด มักจะค่อย ๆ แห้งไปเองภายใน 7-10 วันหลังคลอด หลังจากสะดือหลุดแล้ว หากสะดือมีกลิ่นเหม็น รอบ ๆ สะดือมีการบวมแดงหรือแฉะ ควรพาเด็กไปพบคุณหมอ

น้องหนู

จุดซ่อนเร้นของลูกน้อยเป็นส่วนที่บอบบางที่คุณแม่ต้องเอาใจใส่ ให้ความสำคัญในเรื่องความสะอาดให้มากค่ะ

ลูกสาว

หลังอาบน้ำใช้สำลีชุบน้ำสะอาด เช็ดจากท้องน้อยไล่ลงไปที่อวัยวะเพศจนถึงทวาร และควรเช็ดจากด้านหน้าไปด้านหลังเสมอ เพื่อไม่ให้เชื้อโรคจากทวารหนักจะเข้าสู่ช่องคลอด

ลูกชาย

ใช้สำลีชุบน้ำสะอาดเช็ดจากท้องน้อยไปอวัยวะเพศจนถึงทวารหนัก ไม่ต้องพลิกปลายอวัยวะเพศออกมาทำความสะอาด

เรื่องต้องระวัง : เปลี่ยนผ้าอ้อมและทำความสะอาดทุกครั้งที่ลูกปัสสาวะหรืออุจจาระ เพื่อไม่ให้เกิดการหมักหมม (เชื้อโรค) และผดผื่นต่าง ๆ

ลูกพอมองเห็นละน่ะ ลองดูจิ

----------------------------------------------------------


สายตาเจ้าตัวเล็กตอนนี้ยังมองเห็นอะไรไม่ค่อยชัดเท่าไหร่ เวลาคุย กับเขาเราอาจต้องยื่นหน้าเขาไปใกล้ๆ เพราะเขาจะมองเห็นได้ชัด แค่ในระยะไม่เกิน 8-15 นิ้วเท่านั้นเองค่ะ แล้วก็ไม่ต้องแปลกใจ นะคะว่า ทำไมลูกไม่ยอมสบตาเราสักที มัวแต่มองคิ้ว มองไรผม มองปากเราเวลาพูด พอโตขึ้นอีกหน่อยเดี๋ยวเขาก็สบตาเราได้เอง ล่ะค่ะ


เกิดอะไรขึ้นกับเจ้าตัวเล็กในวัยนี้บ้าง?

• ใกล้เข้ามาอีกนิด
เจ้าตัวเล็กวัยนี้เขายังมองเห็นไม่ค่อยชัดเท่าที่ควร ถ้าอยากให้เขาเห็นหน้าเราก็ต้องยื่นหน้า เขาไปหาเขาใกล้ๆ แทนค่ะ อย่างระหว่างกินนม อาจลองโผล่หน้าเข้าไปใกล้ๆ แล้วเอียงไป ข้างซ้ายที ข้างขวาที แล้วดูสิคะว่าสายตาเขาหันมองตามเรารึเปล่า วิธีนี้จะช่วยให้เจ้าตัวเล็ก ได้ออกกำลังกายกล้ามเนื้อตาไปด้วยในตัวค่ะ แต่อย่าเพิ่งเอาแสงสว่างมากๆ ไปส่องเขา นะคะ ไม่งั้นจะทำให้เขาตาพร่าได้ง่ายๆ และช่วงนี้ยังเป็นวัยที่สายตาของเขามองอะไรเป็น 3 มิติด้วยค่ะ ลองยื่นของเล่นไปใกล้ๆ เขา แล้วดูว่าเขาจะโต้ตอบยังไง

• ร้องทีไรให้นมทุกครั้ง
ช่วงนี้เขาจะกินนมบ่อย เรียกว่าตลอดทั้งวันก็ได้ค่ะ จนคุณแม่อย่างเราจะรู้สึกว่ายังไม่อิ่มอีก หรือคะลูก ทำไมหนูกินเก่งแบบนี้ล่ะจ๊ะ ก็เพราะนมแม่ย่อยง่าย ไม่อยู่ท้อง เขาจึงหิวบ่อย แต่ก็ดีในแง่ที่ว่าถ้าเราให้นมแม่ เวลารู้สึกคัดนมถ้าเขาดูดนมจากเรา อาการคัดนมก็จะดีขึ้น ทันที และพอกินเยอะขึ้น ที่ตามมาก็คือเขาจะเริ่มอึออกมาเป็นสีเหลืองๆ หรือบางทีก็เป็น สีดำๆ บ้างค่ะ เพราะยังมีส่วนที่ค้างอยู่ในลำไส้เขาตั้งแต่อยู่ในท้องเรานั่นเองล่ะค่ะ การร้อง ของเขาสื่อให้เรารู้ว่าเขาหิว เปียกแฉะ หรือเจ็บปวด ก็ต้องตรวจเช็กดูก่อนนะคะว่าร้อง เพราะสาเหตุใดคุณแม่อย่างเราอย่าให้เขากินบ่อยมากเกินไป ไม่ใช่ว่าร้องทีไรก็ให้นมทุก ครั้งไปเพราะการให้นมมากเกินไป ทำให้เขาย่อยไม่ทัน เขาก็จะมีอาการท้องอืด หากเขาเป็น เด็กตัวโตมาตั้งแต่เกิด เขาจะหิวบ่อย และอาจจะกินมากกว่าเด็กคนอื่น

• ระบบขับถ่ายของเจ้าตัวเล็ก
ระบบขับถ่ายของเด็กแรกเกิดส่วนใหญ่จะเป็นสีดำๆ ที่เรียกว่าขี้เทาน่ะค่ะ เพราะเป็นของเสีย ที่ค้างมาตั้งแต่เขาอยู่ในท้องนั่นเองล่ะค่ะ สีดำๆ จะเริ่มหายไปถ้าเราให้เขาเริ่มกินของใหม่ๆ เขาก็จะเริ่มอึออกมาเป็นสีค่อนข้างเหลือง และถ้าให้เขาดื่มนมแม่ อึของเขาก็จะนิ่มๆ ด้วยค่ะ

• เริ่มเลียนแบบท่าทาง
เจ้าตัวเล็กของเรายังพูดไม่ได้ แต่เขาก็เริ่มจำหน้าและท่าทางของคนใกล้ตัวได้แล้วค่ะ เวลาเรายื่นหน้าเข้าไปใกล้ๆ เขา อาจลองยักคิ้วบ้าง หรือไม่ก็แลบลิ้นใส่เขาบ้างก็ได้นะคะ สักพักเขาจะเริ่มหาทางเลียนแบบท่าทางของเรา วิธีนี้ช่วยพัฒนากล้ามเนื้อบนหน้าให้เจ้า ตัวเล็กได้ด้วยค่ะ

• นอนหงายบ้าง นอนคว่ำบ้าง
ท่านอนที่ดีที่สุดสำหรับเขาก็คือนอนหงาย เพราะเป็นท่าที่ปลอดภัยสำหรับเจ้าตัวเล็กที่สุด แต่บางครั้งก็ต้องจับเขานอนคว่ำบ้าง จะได้ช่วยให้กล้ามเนื้อที่คอของเขาแข็งแรงขึ้นนะคะ แต่ตองอยู่ในสายตาผู้ดูแลตลอดเวลานะคะ เพื่อป้องกันอันตรายเรื่งอการกดทับจมูก

สายตากับสมาธิของลูกวัยแบเบาะ


เด็กวัยทารกนั้น ประสาทตาของเขายังพัฒนาได้ไม่เต็มที่ โดยธรรมชาติของเด็กวัยนี้จะชอบมองดูของเล่นที่มีสีดำ-ขาว มากกว่าสีอื่น ๆ เพราะเป็นสีที่มีความเข้มต่างกันมากที่สุด รวมทั้งสิ่งของที่เคลื่อนไหว การจะดึงความสนใจให้ลูกจดจ่ออยู่กับสิ่งใดสิ่งหนึ่งได้นานๆ จึงสามารถทำได้ เพราะไม่ว่าจะเป็นโมบายล์ ภาพพิมพ์ ของเล่น หรือสิ่งของใดๆ ที่มีสีขาว-ดำ สามารถช่วยกระตุ้นระบบประสาทการมองเห็นของทารกได้อย่างดีทีเดียว และที่สำคัญยังช่วยพัฒนาให้ลูกเกิดความนิ่ง ความจดจ่อ ซึ่งเป็นพื้นฐานของสมาธิได้อีกด้วย
เรื่องนี้ มีนักจิตวิทยาเด็กหลายท่านได้ทำการศึกษาทดลองกระตุ้นการมองเห็นของเด็กวัยทารกด้วยสีดำ-ขาว มาแล้ว และพบว่าเมื่อผ่านไป 3 สัปดาห์ ทารกที่ได้รับการกระตุ้นด้วยของเล่นอย่างโมบายล์ที่มีลายกราฟฟิก ตารางสีขาว-ดำ จะมีสมาธิมากขึ้น จากที่เคยใช้เวลาเพียง 4-10 วินาที ในการจ้องสิ่งแปลกใหม่ที่ผ่านเข้ามาในสายตา แต่ทารกกลุ่มนี้กลับใช้เวลาในการจ้องมองวัตถุที่สนใจได้นานเพิ่มขึ้นเป็น 1 นาทีทีเดียว ซึ่งการใช้สายตาของทารกส่งผลโดยตรงต่อระดับสมาธิและสติปัญญา เพราะในระหว่างที่ทารกกำลังจ้องมองวัตถุต่าง ๆ เหล่านั้น เซลล์สมองจะเติบโต สร้างเส้นใยประสาทเชื่อมต่อจุดต่าง ๆ เพื่อเตรียมสมองให้พร้อมสำหรับการเรียนรู้ต่อไป ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่จึงควรหาของเล่น เช่น โมบายล์ที่มีลายดำ-ขาว แผ่นกระตุ้นสายตาลายหมากรุก มาแขวนไว้ในระยะที่ลูกสามารถมองเห็นได้ เป็นการฝึกสายตาลูกและกระตุ้นให้มีการใช้สายตาทั้งสองข้างค่ะ

สร้างกล้ามเนื้อคอลูกน้อยให้แข็งแรง
ในช่วง 1-3 เดือนแรก กล้ามเนื้อคอของลูกน้อยยังไม่แข็งแรง เนื่องจากเมื่อตอนอยู่ในท้องของคุณแม่มีน้ำคร่ำคอยโอบอุ้มลูกไว้ และด้วยสัดส่วนของศีรษะที่ค่อนข้างใหญ่เมื่อเทียบกับลำตัว คุณแม่จึงต้องใช้ความระมัดระวังอย่างมากในการอุ้มลูกน้อย
อย่างไรก็ตาม ระหว่างนี้คุณแม่สามารถช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงให้กล้ามเนื้อคอของลูกแข็งแรงได้ โดย
- เขี่ยข้างแก้มลูก เพื่อให้ลูกหันหา ซ้ายที ขวาที
- อุ้มพาดบ่าบ่อยๆ เพื่อเปิดโอกาสให้ลูกได้หัดชันคอ
- พูดคุยกับลูก เพื่อให้ลูกคุ้นเคยกับเสียงของคุณแม่เร็วๆ และหมั่นส่งเสียงเรียกเพื่อดึงความสนใจให้ลูกหันหาเสียง
- หาของเล่นที่มีเสียงมาเป็นตัวช่วยให้ลูกหันซ้ายขวาขยับคอไปมา
- ยื่นหน้าไปใกล้ๆ ลูกราว 1 ฟุต ขณะลูกนอนคว่ำ พร้อมส่งเสียงพูดคุย ขยับหน้าไปมา ขยับขึ้นบนลงข้างล่างบ้างเพื่อให้ลูกน้อยมองตาม
- ขณะลูกตื่นจับลูกนอนคว่ำบ่อยๆ เพื่อฝึกชันคอ
- ให้ลูกนอนหงาย แล้วจับมือทั้งสองดึงขึ้นช้าๆ สู่ท่านั่ง ซึ่งลูกจะพยายามเกร็งคอและศีรษะให้ตั้งตรง
- อุ้มลูกนั่งตัก ให้หลังลูกห่างจากลำตัวคุณแม่เล็กน้อย การอุ้มนั่งจะช่วยกล้ามเนื้อคอและหลังลูกให้แข็งแรงขึ้นได้
- ให้ลูกดูโมบายล์แบบคร่อมตัวลูก จะช่วยดึงความสนใจให้ลูกน้อยพยายามมอง หรือเอื้อมมือสัมผัส ซึ่งต้องใช้กล้ามเนื้อคอ หลังและแขนควบคู่กันไป
ลองดูนะคะ เชื่อว่า ไม่เกินสามเดือนกล้ามเนื้อคอที่เคยอ่อนของลูกก็จะสามารถตั้งตรงและแข็งแรงขึ้นค่ะ

http://www.enfababy.com/%E0%B8%9E%E0%B8%B1%E0%B8%92%E0%B8%99%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%80%E0%B8%94%E0%B9%87%E0%B8%81-0-6-%E0%B9%80%E0%B8%94%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%99

ดีมากจ๊ธ อันนี้