หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ

สเปซของ เจ้าหนูบู้บี้

ไม่ได้อัพเดทสถานะมาช่วงหนึ่งแล้ว

คอมเม้นต์สมุดเยี่ยม

กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนคอมเม้นต์
CoCo CrunCH : 19:09 - 7 ตุลาคม 2556
อันนี้จากที่ใช้ google เดินดูเอง
















CoCo CrunCH : 19:04 - 7 ตุลาคม 2556
อันนี้จากที่เจ้าของบ้านลงไว้



CoCo CrunCH : 18:09 - 7 ตุลาคม 2556
ได้เวลากินข้าวละน่ะ คนเก่ง
CoCo CrunCH : 17:40 - 7 ตุลาคม 2556
http://www.dealfish.co.th/product-3750791/
CoCo CrunCH : 15:41 - 7 ตุลาคม 2556
ทำอะไรอยู่จ๊ะ
CoCo CrunCH : 12:45 - 7 ตุลาคม 2556
ฝนตกอีกแล้ว ที่บ้านตกป่าวจ๊ะ
CoCo CrunCH : 12:10 - 7 ตุลาคม 2556
เอาน้ำโกโก้ไปลอยในตุ่มซิจ๊ะ จุ๊ฟๆ
CoCo CrunCH : 12:07 - 7 ตุลาคม 2556
โรคท้องร่วง
การท้องร่วงนั้นหมายถึง การที่แมวนั้นถ่ายอุจจาระออกมาในลักษณะผิดปกติ คือ อาจมีตั้งแต่เหลวเละ ไปจนถึงถ่ายเป็นน้ำ หรือบางครั้งอาจถ่ายแบบกระปริดกระปรอย ซึ่งกรณีที่ถ่ายเหลวไปจนถึงเป็นน้ำนั้น ท่านเจ้าของสามารถดูแลให้หายเองได้ภายใน 24 ชั่วโมง ถึง 36 ชั่วโมง แต่หากแมวของท่านซูบซีด หมดแรง เดินแทบไม่ไหว หรือมีเลือดปนออกมากับอุจจาระ แมวอาจแสดงอาการเจ็บปวดทุรนทุราย มีไข้สูง หรือการอาเจียนร่วม หากเป็นเช่นนั้น ควรรีบพาไปพบสัตวแพทย์ทันที
สาเหตุการท้องร่วงในแมวมีหลายสาเหตุ เช่น การให้ยาปฏิชีวนะแก่แมวติดต่อกันเป็นเวลานาน ทำให้แบคทีเรียที่มีตามปกติในลำไส้ถูกฆ่า เป็นเหตุให้แบคทีเรียที่ก่อโรคบางตัวพัฒนาตนเองขึ้นมาใหม่ ตลอดจนเชื้อราก็จะเพิ่มจำนวนจนก่อให้เกิดการท้องร่วงได้ ดังนั้น ท่านจึงควรปรึกษาสัตวแพทย์ทันที
แมวบางตัวขาดน้ำย่อยที่ชื่อว่า "แลคเตส " ซึ่งมีหน้าที่ย่อยนม ดังนั้นเมื่อกินนมเข้าไปจึงไม่มีน้ำย่อยที่จะไปย่อยโมเลกุลของน้ำตาลแลคโตสในนม ผลก็คือน้ำตาลแลคโตส จะดึงน้ำออกจากร่างกายแมวผ่านผนังลำไส้ เป็นเหตุให้แมวถ่ายเหลวไปจนถึงเป็นน้ำ
บางครั้ง อาหารที่เจ้าของให้มีผลต่อการเกิดอาการท้องร่วงของแมว เนื่องจากอาหารที่เจ้าของให้อาจเป็นสิ่งแปลกปลอมของแมว เช่น มีเครื่องเทศมาก ไขมันสูงขึ้นไป หรือการเปลี่ยนชนิดของอาหารที่ให้แมวอย่างรวดเร็วเกินไปอาจทำให้แมวท้องร่วงได้เช่นกัน
พยาธิก็เป็นหนึ่งในสาเหตุที่ก่อให้เกิดพยาธิได้ ไม่ว่าจะเป็นพยาธิตัวแบน พยาธิตัวกลม หรือโปรโตซัว ล้วนก่อให้เกิดปัญหาท้องร่วงทั้งสิ้น บางครั้งอาจทำให้เกิดการถ่ายเป็นมูกเลือด
เชื้อแบคทีเรียก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งของอาการท้องร่วง ซึ่งอาจจะเกิดมาจากการกินอาหารบูดเน่า หรือการที่ลูกแมวชอบกินอุจจาระของกันและกัน
อาการท้องร่วงของลูกแมวมักทำให้เกิดอาการป่วยอย่างรุนแรงตามมา เนื่องจากอาการขาดน้ำนั่นเอง ทำให้ลูกแมวบางตัวเสียน้ำมากจนถึงกับตัวแห้งตายก็มี ซึ่งแมวที่มีอาการตัวแห้งนั้น หนังจะไม่มีอาการหดยืดตัวเหมือนเดิมตามปกติ จึงควรพาไปให้สัตวแพทย์ให้น้ำเกลือโดยด่วน
แมวสูงอายุที่อายุมากกว่า 7 ปีขึ้นไป หากมีอาการท้องร่วงควรจะคำนึงถึงสาเหตุของโรคต่อมไทรอยด์ด้วย
การรักษาแมวท้องร่วงนั้น อาจทำได้ด้วยการงดอาหารชั่วคราว แต่ไม่ต้องงดน้ำ พร้อมป้อนยาเคลือบลำไส้ประเภทคาโอลินเปคติน และหลังจากงดอาหารได้ 24 ชั่วโมงแล้ว ให้เริ่มกินอาหารได้ โดยแบ่งเป็นมื้อย่อยๆ ราว 4 - 5 มื้อต่อวัน ให้กินคราวละนิดหน่อย โดยเริ่มจากอาหารพวกเนื้อบดต้มคลุกข้าวกินติดต่อกัน 3 - 4 วัน หรือจนกว่าจะหายท้องร่วง อาหารนี้จะต้องไม่ร้อนหรือเย็นจัดจนเกินไป จากนั้นก็ค่อยๆให้กินอาหารปกติ โดยค่อยๆเพิ่มสัดส่วนทีละน้อย แต่หากแมวท้องร่วงเกินกว่า 2 วัน ควรรีบนำส่งโรงพยาบาล
วิธีป้องกันท้องร่วงในแมวทำได้คือ อย่าให้อาหารที่มีรสจัดหรือเครื่องเทศมากแก่แมว อย่าให้กระดูกหรือนมกับแมวที่เคยมีอาการถ่ายเหลวหลังกินนม พาแมวไปตรวจและถ่ายพยาธิตามระยะเวลาที่กำหนด อย่าให้ของเล่นจำพวกเส้นด้าย ไหมพรม หรือหนังสติ๊กกับแมว เพราะแมวอาจจะกินเข้าไปได้ เก็บยาฆ่าแมลง ปุ๋ย และเศษขยะให้มิดชิด และอย่าปล่อยแมวออกไปเดินเพ่นพ่านทั่วไป
CoCo CrunCH : 12:07 - 7 ตุลาคม 2556
พยาธิภายใน
พยาธิโปรโตซัว
เป็นพยาธิเซลล์เดียวที่เล็กมาก มองไม่เห็นด้วยตาเปล่า ก่อให้เกิดโรคท้องร่วงเรื้อรัง นอกจากนั้นยังมีพยาธิโปรโตซัวบางตัวที่ติดต่อและเป็นอันตรายต่อคน เช่นเชื้อโปรโตซัว
ท็อกโซพลาสม่า ส่วนใหญ่พยาธิโปรโตซัวมักจะพบในลำไส้ และถูกขับออกมากับอุจจาระ การติดต่อไม่ว่าระหว่างแมวด้วยกันหรือกับคน คือการติดต่อทางปาก หรือการกินเป็นหลัก การรักษาโดยมิได้วินิจฉัยให้ถูกต้องอาจทำให้แมวเสียชีวิตได้ แต่หากรักษาอย่างถูกต้องแต่แรกจะสามารถหายได้


พยาธิตัวกลม (Roundworms)
พยาธิชนิดนี้มีลักษณะลำตัวกลม ตัวยาว สีขาว เห็นได้ด้วยตาเปล่า การติดพยาธิเกิดจากการกินไข่พยาธิที่ปนออกมากับอุจจาระของแมวแล้วผ่านเข้าปากไปฟัก
เป็นตัวในลำไส้ มักพบในลูกแมวเป็นส่วนใหญ่ มักแสดงอาการท้องป่อง ขนหยาบ ตัวผอม
โลหิตจาง ท้องร่วงบ่อยครั้ง สามารถรักษาได้โดยการถ่ายพยาธิและให้ยาบำรุง และควรถ่ายพยาธิให้แม่แมวที่ตั้งท้องด้วย รวมทั้งเก็บอุจจาระแมวไม่ให้เรี่ยราด

พยาธิตัวแบนหรือตัวตืด (Tapeworms)
เรียกอีกอย่างว่าพยาธิเม็ดแตงกวา เนื่องจากจะเห็นปล้องแก่ของพยาธิตัวแบนไต่อยู่รอิบก้นคล้ายเมล็ดแตงกวาที่คืบคลานได้ เมื่อแมวตัวอื่นมาเลียกินไข่พยาธินี้เข้าไป ก็เท่ากับรับพยาธิตัวแบนเข้าไปเจริญเติบโตในลำไส้ พยาธินี้จะดูดซึมแย่งอาหารจากแมวจนซูบผอม บางครั้งอาจพบอาการท้องร่วงหรือท้องผูกสลับกันเป็นระยะ สังเกตเห็นได้คือ แมวมักจะชอบเอาก้นถูพื้นเสมอ แมลงพาหะก็คือหมัด ดังนั้นหากแมวกินหมัดที่มีไข่พยาธิตัวแบนเข้าไปก็จะติดพยาธินี้ได้ วิธีป้องกันคือ การให้ยาถ่ายพยาธิที่มีประสิทธิภาพ


พยาธิปากขอ (Hookworm)
พยาธิปากขอเป็นพยาธิขนาดเล็ก ยาวประมาณ 1/4 นิ้ว สีแดง ตัวผอมบาง ดูด้วยตาเปล่าแยกได้ยากจากอุจจาระ ดังนั้น การตรวจโดยสัตวแพทย์จะเป็นการหาไข่พยาธิปากขอในอุจจาระ พยาธินี้จะใช้ปากของมันดูดเลือดโดยตรงจากผนังลำไส้ของเหยื่อ ทำให้มีอาการโลหิตจาง และอุจจาระเป็นเลือดสดๆ การป้องกันคือการถ่ายพยาธิเป็นระยะ และหากเป็นมากต้องบำรุงด้วยธาตุเหล็กและตับ

พยาธิภายนอก
หมัดแมว (Cat Flea Ctenocephalides Felis)
ปัจจุบันเราจะพบแมวมีหมัดกันมากขึ้น อีกทั้งหมัดยังกระโดดได้ไกล สามารถติดต่อจากแมวตัวหนึ่งไปยังอีกตัวหนึ่งได้ง่าย ก่อความรำคาญให้แก่แมว และน้ำลายของหมัดอาจทำให้แมวบางตัวมีอาการแพ้ จนเกิดเป็นโรคผิวหนังอักเสบ ดังนั้นการป้องกันและกำจัดหมัดจึงเป็นสิ่งสำคัญ ปัจจุบันมียาสำหรับกำจัดหมัดหลายขนาน ตั้งแต่ยากิน ยาฉีด ยาทา ยาพ่น ยาหยด หรือแม้แต่ปลอกคอ ลองปรึกษาสัตวแพทย์ดูก็ได้ค่ะ


ไรหู (Ear Mites)
เกิดจากไรชนิดหนึ่งที่ชื่อว่า Otodectes cynotis อาศัยอยู่ในช่องหูส่วนนอกของแมว มันมีขนาดเล็กมากจนมองด้วยตาเปล่าไม่เห็น แต่จะมองเห็นเมื่อรวมกันเป็นกลุ่ม มันอาศัยกินขี้หูแมวและวางไข่แพร่พันธ์ในช่องหู แมวจะแสดงอาการคัน เกาหู จนบางครั้งเกิดแผลและขนร่วงที่แก้มและใบหู ลักษณะเด่นคือ ขี้หูของแมวที่ป่วยจะเป็นสีน้ำตาลเข้ม หากนำไปส่องด้วยกล้องจุลทรรศน์จะเห็นตัวไรเต็มไปหมด
ไรหูกำจัดได้ด้วยการใช้น้ำยาล้างและเช็ดหู รวมถึงยากินและยาฉีดบางชนิด การป้องกันที่ดีที่สุดคือหมั่นเช็ดทำความสะอาดในหู และสังเกตความผิดกติของหูด้วย

ไรหัว (Head mange)
เกิดจากเชื้อไรที่ชื่อว่า Notoedrescati มักจะฝังตัวอยู่ในผิวหนังของแมวตรงบริเวณส่วนหัว เช่นใบหน้าและลำคอ บางครั้งอาจหลุดไปอยู่บริเวณเท้า แมวจะแสดงอาการคันมาก ขนร่วง ผิวหนังแห้ง หนาและด้านจนบางครั้งเหี่ยวย่น พบมากตรงหลังคอและหัว บางรายมีน้ำเหลืองชุ่มอยู่ตรงผิวหนังที่มีอาการ
การรักษาทำได้โดยใช้ยาฟอก อาบ แช่ ซึ่งสามารถหายขาดได้ในเวลาไม่นาน

ราบนผิวหนัง (Ringworm)
เกิดจากเชื้อรา คือ Microsporum และ Trichophyton ซึ่งสามารถติดต่อถึงคนได้ อาการที่พบในแมวคือ ขนร่วงเป็นวง มีขอบชัดเจน บริเวณที่ขนร่วงอาจพบอาการอักเสบเป็นสีแดง แมวจะคันและเลียจนลุกลาม ดังนั้นควรรีบพาไปพบสัตวแพทย์เพื่อทำการรักษา โดยใช้ยาฟอก ยาทา และยากิน ประมาณ 2 - 3 สัปดาห์ก็หาย แต่เจ้าของควรระวังทุกครั้งที่ต้องสัมผัสแมว
CoCo CrunCH : 11:24 - 7 ตุลาคม 2556
เดี๋ยวเอาข้อมูลแมวมาแปะให้น่ะจ๊ะ

แล้วเช้ากินอะไร ลืมกินยาป่าวจ๊ะ
CoCo CrunCH : 15:10 - 4 ตุลาคม 2556
อ่านให้ครบทุกลิ้งน่ะจ๊ะคนเก่ง สู้ๆ

http://pantip.com/topic/31065536

มี4ลิ้งสั้นๆ
CoCo CrunCH : 14:58 - 2 ตุลาคม 2556
http://pantip.com/topic/31042119
CoCo CrunCH : 11:01 - 2 ตุลาคม 2556
ทำไรอยู่หว่า
CoCo CrunCH : 10:08 - 1 ตุลาคม 2556
^^ ดีจ๊ะ

จุ๊ฟๆ น่ารัก
CoCo CrunCH : 09:16 - 1 ตุลาคม 2556
ตื่น หรือ ยังเอ่ย กินข้าวกะอะใย จ๊ะ