หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม แต่งรูป คำคม Glitter สเปซ ไดอารี่ เกมถอดรหัสภาพ เกม วิดีโอ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
การดูแลสุขภาพฟันอาจจะเริ่มจากการเลือกคลินิกฟันที่เราพึงพอใจ
16:21 - 21 มิถุนายน 2564

ใครบ้างที่ไม่กลัวหมอ ไม่ชอบไปโรงพยาบาล แม้จะโตจนเป็นวัยผู้ใหญ่แล้ว แต่อาการดื้อรั้นที่ไม่อยากจะไปโรงพยาบาลเพื่อพบแพทย์ก็ยังมีอยู่ อาจจะมาจากความทรงจำที่ไม่ค่อยดีนักในอดีตที่ฝังใจเรา ทำให้เราขยาดกับการไปโรงพยาบาล อาการที่หนักเลยก็คือ การกลัวหมอฟัน หรือทันตแพทย์ เพราะความเจ็บปวดที่ได้รับนั้นช่างตราตรึงอยู่ในทุกเสี้ยวของความทรงจำ ไม่ว่าจะเป็นตั้งแต่แสงไฟที่สาดลงมา รวมไปถึงการลงเข็มฉีดยาชาของหมอที่เรียกน้ำตาจากเราเสมอ 

 

เพราะเราไม่สามารถหนีความกลัวนี้ไปได้ตลอด การได้มีหมอที่เข้าใจ ไว้วางใจของคนไข้จึงถือว่าเป็นโบนัส ความสบายใจจากการไปพบแพทย์เปรียบได้กับการไปพบเพื่อนคนสนิทที่เราฝากผีฝากไข้ไว้ได้ในยามที่เราเจ็บป่วย ไม่ต่างจากคลินิกทำฟัน ที่เราไปหลายที่กว่าจะเจอที่ถูกใจ ตั้งแต่การบริการ การดูแลและการรักษาของหมอฟันที่ทำให้เราลดความกังวลและความกลัวได้ Bangkok dental clinic คลินิกหมอฟันในเขตกรุงเทพมหานครนั้นก็มีให้เลือกอย่างหลากหลายและการเดินทางยังสะดวกสบายดอีกด้วย หลายๆที่นั้นอยู่ในห้างสรรพสินค้าและตามเส้นทางรถไฟฟ้าและรถไฟใต้ดิน นอกจากนี้อาหารบำรุงกระดูกมีความสำคัญต่อสุขภาพร่างกายอยู่ไม่น้อย เพราะอาจช่วยเสริมความแข็งแรงให้กับกระดูกตั้งแต่อายุยังน้อย และลดความเสี่ยงจากปัญหาสุขภาพที่อาจเกิดกับกระดูก ซึ่งเกิดขึ้นได้ง่ายเมื่อมีอายุมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นโรคกระดูกอ่อน โรคกระดูกพรุน ภาวะกระดูกหักจากอุบัติเหตุหรือหกล้ม บทความนี้ได้รวบรวมอาหารที่มีประโยชน์ต่อกระดูกและหารับประทานได้ง่าย ซึ่งปกติแล้ว กระดูกของคนเราจะมีสุขภาพที่ดีและคงความแข็งแรงไว้ได้ก็ต่อเมื่อได้รับสารอาหารที่จำเป็นอย่างต่อเนื่อง นั่นก็คือแคลเซียมและวิตามินดี โดยแคลเซียมจะช่วยสร้างและบำรุงกระดูกและฟันให้แข็งแรง ส่วนวิตามินดีจะช่วยควบคุมระดับแคลเซียมและฟอสเฟตภายในร่างกาย โดยในแต่ละวัน ร่างกายต้องการปริมาณแคลเซียมและวิตามินดี ทั้งในส่วนแคลเซียม ที่ผู้ใหญ่ทั่วไปควรได้รับแคลเซียมในปริมาณ 1,000 มิลลิกรัม หากมีอายุมากกว่า 50 ปีขึ้นไป ควรได้รับในปริมาณ 1,000-1,200 มิลลิกรัม วิตามินดีสำหรับผู้ที่มีอายุ 1-70 ปี ควรได้รับวิตามินดีในปริมาณ 600 IU หากอายุมากกว่า 70 ปีขึ้นไป ควรได้รับในปริมาณ 800 IU นอกจากแคลเซียมและวิตามินดีแล้ว ยังมีสารอาหารอื่น ๆ ที่มีส่วนช่วยในการเจริญเติบโตและการพัฒนาของกระดูก เช่น โปรตีน ฟอสฟอรัส แมกนีเซียม แมงกานีส สังกะสี วิตามินเค เป็นต้น การรับประทานอาหารให้ครบตามหลักโภชนาการเป็นวิธีดูแลร่างกายง่าย ๆ ที่มีประโยชน์ต่อกระบวนการสร้างกระดูกให้แข็งแรงเป็นอย่างมาก มาดูตัวอย่างอาหารบำรุงกระดูกที่เหมาะสำหรับคนทุกช่วงวัย ไม่ว่าจะเป็น ปลาที่มีกรดไขมันจำเป็นแหล่งวิตามินดีที่มีส่วนช่วยในการดูดซึมแคลเซียมเข้าสู่ร่างกาย โดยเฉพาะปลาที่หาซื้อได้ง่าย เช่น ปลาทู ปลาซาร์ดีน ปลาทูน่า ปลาแซลมอน เป็นต้น ยิ่งไปกว่านั้นกรดไขมันจำเป็นอย่างกรดไขมันโอเมก้า 3 ยังมีส่วนช่วยในกระบวนการสร้างกระดูกและป้องกันการสูญเสียมวลกระดูกอีกด้วย

 

 

 

คอมเม้นต์
กรุณา "เข้าสู่ระบบ" ก่อนคอมเม้นต์
ผู้เขียน